บริหารงานบุคคล อปท.

     จำนวนรายการต่อหน้า

คำตอบ (1): ขอรับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ได้ที่ สำนักพัฒนาระบบบริหารงานบุคคลท้องถิ่น (สน.บถ.) ฝ่ายเครื่องราชอิสริยาภรณ์ เบอร์โทรติดต่อ 0-2241-9052 หรือ 0-2241-9000 ต่อ 3122
[ กจ. : กองการเจ้าหน้าที่ ]

คำตอบ (2): มีสิทธิได้รับค่าตอบแทนพิเศษรายเดือนให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เนื่องจากในหลักการลาถือเป็นสิทธฺของพนักงานว่นตำบลที่กำหนดตามมาตรฐานทั่วไปเกี่ยวกับ เรื่องหลักเกณฑ์และเงื่ิอนไขเกี่ยวกับบริหารงานบุคคลของ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ดังนั้นพนักงงานส่วนตำบลลาจึงยังมีสิทธิได้รับค่าตอบแทนพิเศษรายเดือนให้แก่ผู้ปฏิบัติงานในพืันที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ปกติในอัตราคนละ ๒,๕๐๐ บาท/เดือน
[ สน.บถ. : สำนักพัฒนาระบบบริหารงานบุคคลส่วนท้องถิ่น ]

คำตอบ (3): ผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นผู้อนุมัติการเดินทางไปราชการของผู้บริหารและประธานสถาท้องถิ่น ตามข้อ ๘(๑) ของระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการของเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น พ.ศ.๒๕๕๕
[ สน.บถ. : สำนักพัฒนาระบบบริหารงานบุคคลส่วนท้องถิ่น ]

คำตอบ (4): เรื่องดังกล่าวได้มีหนังสือชี้แจงแนวทางปฏิบัติไว้แล้ว ตามหนังสือสำนักงาน ก.จ. ก.ท. และ ก.อบต. ที่ มท 0809.9/ว10 ลงวันที่ 8 เมษายน 2557 ดังนี้ ก.ท. ในการประชุมครั้งที่ 2/2557 เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2557 ได้มีมติเห็นชอบแนวทางปฏิบัติตามข้อหารือดังกล่าวกรณีเทศบาลมีตำแหน่งนักบริหารการศึกษา ระดับ 6-9, ตำแหน่งผู้อำนวยการสถานศึกษา, ตำแหน่งรองผู้อำนวยการสถานศึกษา และตำแหน่งศึกษานิเทศก์ว่าง แล้วดำเนินการสรรหาบุคคลให้ดำรงตำแหน่งดังกล่าวโดยการสอบคัดเลือก และบุคคลที่สอบคัดเลือกได้ก็เป็นผู้มีคุณสมบัติครบถ้วนตามเงื่อนไขคุณสมบัติผู้มีสิทธิสอบคัดเลือกถึงแม้ว่าจะไม่ผ่านการพัฒนาตามหลักสูตรที่ ก.ท. กำหนดก็ตาม แต่ในการพิจารณาให้ความเห็นชอบการบรรจุและแต่งตั้งบุคคลให้ดำรงตำแหน่งที่สอบคัดเลอืกได้ให้ดำรงตำแหน่ง จะต้องพิจารณาคุณสมบัติให้ครบถ้วนตามคุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่ง กล่าวคือจะต้องเป็นผู้ที่ผ่านการพัฒนาตามหลักสูตรที่ ก.ท. กำหนด ด้วยแล้วแต่กรณี ทั้งนี้ กรณีการบรรจุและแต่งตั้งผู้ผ่านการคัดเลือก/สอบคัดเลือก ให้เทศบาลเสนอขอบรรจุแต่งตั้งผู้ผ่านการคัดเลือกภายในกำหนดอายุบัญชี โดย ก.ท.จ. เห็นชอลการบรรจุแต่งตั้งแบบมีเงื่อนไขว่า จะแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งได้ก็ต่อเมื่อผ่านหลักสูตรการฝึกอบรมตามที่กำหนดโดยมีหนังสือรับรองจากหน่วยฝึกอบรม (สพบ.) เป็นหลักฐาน ทั้งนี้ หากเป็นพนักงานเทศบาลในสังกัดผ่านการคัดเลือก ก็ให้เทศบาลนั้นแต่งตั้งผู้นั้นรักษาการไปพลางก่อนด้วย อนึ่ง สำหรับการแต่งตั้งบุคคลให้ดำรงตำแหน่งในสายงานดังกล่าวขององค์การบริหารส่วนจังหวัดและองค์การบริหารส่วนตำบลให้อนุโลมใช้และถือปฎบัติตาม ก.ท. ข้างต้นโดยอนุโลมเช่นเดียวกัน
[ สน.บถ. : สำนักพัฒนาระบบบริหารงานบุคคลส่วนท้องถิ่น ]

คำตอบ (5): เรื่องดังกล่าวเป็นการหารือคุณวุฒิการศึกษาของบุคคล พื่อบรรจุและแต่งตั้งเป็นพนักงานครูเทศบาล ตำแหน่งครูผู้ดูแลเด็ก ว่าคุณวุฒิประกาศนียบัตรบัณฑิต ถือเป็นคุณวุฒิที่เทียบได้ไม่ต่ำกว่าปริญญาทางการศึกษา หรือตรงตามคุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่งครูผู้ดูแลเด็ก ซึ่งได้มีหนังสือชี้แจงแนวทางปฏิบัติไว้แล้ว ตามหนังสือสำนักงาน ก.จ. ก.ท. และ ก.อบต. ที่ มท 0809.9/ว12 ลงวันที่ 10 เมษายน 2557 ดังนี้ 1.ประกาศ ก.ท. เรื่อง ตำแหน่งและวิทยฐานะพนักงานครูและบุคลากรทางการศึกษา (เพิ่มเติม) พ.ศ. 2556 ประกาศ ณ วันที่ 4 พฤศจิกายน 2556 ได้กำหนดใช้มาตรฐานกำหนดตำแหน่ง และคุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่งครูผู้ดูแลเด็ก ด้านคุณวุฒิไว้ว่า "มีคุณวุฒิไม่ต่ำกว่าปริญญาตรีทางการศึกษา ทุกสาขาวิชาเอก หรือสาขาวิชาศึกษาศาสตร์ หรือทางอื่นที่ ก.ท. กำหนดเป็นคุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่งนี้" ซึ่งมีเจตนารมณ์ที่ต้องการให้บุคคลที่สำเร็จการศึกษาคุณวุฒิปริญญาตรีทางการศึกษา หรือสาขาวิชาศึกษาศาสตร์ โดยตรงเท่านั้นที่เป็นคุณสมบัติด้านคุณวุฒิในการดำรงตำแหน่งครูผู้ดูแลเด็ก 2.ผู้สำเร็จการศึกษาปริญญาตรีในสาขาอื่นแล้วไปศึกษาต่อจนสำเร็จการศึกษาหลักสูตรประกาศนียบัตรบัณฑิต จะไม่ถือว่าคุณวุฒิประกาศนียบัตรบัณฑิตสาขาวิชาชีพครู/ทางการสอน เป็นคุณวุฒิที่ตรงตามเจตนารมณ์ของคุณสมบัติเฉพาะตำแหน่งครูผู้ดูแลเด็ก จึงเป็นเหตุให้ไม่สามารถบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งครูผู้ดูแลเด็กได้ สำหรับกรณีบุคคลที่สำเร็จการศึกษาคุณวุฒิปริญญาตรีทางการศึกษาหรือสาขาวิชาศึกษาศาสตร์ และได้ศึกษาต่อจนสำเร็จการศึกษาหลักสูตรประกาศนียบัตรบัณฑิต จะถือได้ว่าเป็นบุุคคลที่มีคุณวุฒิตรงตามเจตนารมณ์ของคุณสมบัติของคุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่งครูผู้ดูแลเด็ก จึงสามารถนำคุณวุฒิประกาศนียบัตรบัณฑิตมาบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งครูผู้ดูแลเด็กได้
[ สน.บถ. : สำนักพัฒนาระบบบริหารงานบุคคลส่วนท้องถิ่น ]

คำถาม 6 : ขอความเป็นธรรมเกี่ยวกับการต่อสัญญาจ้างครูอัตราจ้างสอนและการสอบบรรจุครูในโรงเรียนสังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัด เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2552 ความว่า กระผมและเพื่อน ๆ เป็นครูอัตราจ้างสอนในโรงเรียนสังกัด อบจ.ทุกจังหวัด โดยเฉพาะจังหวัดนครราชสีมา มีความเดือดร้อน ที่ อบจ.ไม่ได้มาดูแลและต่อสัญญาจ้างให้ พอสิ้นภาคเรียนทีไร ก็ใจหดหู่มาตลอดว่าจะตกงานไหม จะทำอย่างไร งานก็หายาก สอบบรรจุก็ไม่มีหรือมีก็น้อยและบางคนที่ไม่น่าจะสอบได้ก็สอบได้ ถ้าโรงเรียน อบจ.ไม่ต่อสัญญาจ้างหรือดูแลต่อไปในอนาคต อีกทั้ง มีการเรียกบรรจุข้าราชการครูที่สอบไว้ที่บุรีรัมย์มาแทน ทั้งที่พวกเขาเหล่านั้นสอบสังกัด สพท.บร.เขต 3 ไว้ แต่เรียกข้ามจังหวัดเรียกข้ามสังกัดทำให้คนในท้องถิ่นจะต้องตกงาน พวกกระผมจะเอาอะไรไปเลี้ยงดูครอบครัว พ่อแม่ สามี ภรรยา บุตรที่ต้องศึกษาเล่าเรียน ภาระค่าใช้จ่ายในครอบครัวจะมาได้จากไหน ถ้าโรงเรียน อบจ.ไม่ต่อสัญญาจ้างหรือดูแลต่อไปในอนาคต อ้างระเบียบแต่ไม่อ้างคุณธรรม จริยธรรมเมตตาธรรมและความยุติธรรม new

คำตอบ (6): เรื่องดังกล่าวเป็นการร้องเรียนขอความเป็นธรรมเกี่ยวกับการต่อสัญญาจ้างครูอัตราจ้างสอน ซึ่งการต่อสัญญาจ้างต้องเป็นไปตามประกาศ ก.จ. เรื่อง มาตรฐาน ทั่วไปเกี่ยวกับพนักงานจ้าง ประกาศ ณ วันที่ 12 พฤษภาคม 2547 ข้อ 44 กรณีที่จะมีการต่อสัญญาจ้าง ให้นำผลการประเมินผลการปฏิบัติงานมาประกอบการพิจารณาในการต่อสัญญาจ้าง โดยการต่อสัญญาจ้างครูอัตราจ้างสอนจะต้องนำผลการประเมินผลการปฏิบัติงานมาประกอบการพิจารณาในการต่อสัญญาจ้าง จะต้องมีผลการประเมินผลการปฏิบัติงานเฉลี่ยย้อนหลัง 2 ปี ไม่ต่ำกว่าระดับดี ทั้งนี้ การต่อสัญญาจ้างให้ผู้บังคับบัญชาทำความเห็นเสนอนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด เพื่อพิจารณาสั่งจ้างต่อไป ดังนั้น กรณีที่ร้องเรียนของ ?คณะครูอัตราจ้างสอน (สังกัด อบจ.ทั่วประเทศและ อบจ.นครราชสีมา)? จึงสามารถต่อสัญญาจ้างครูอัตราจ้างสอนได้ ซึ่งจะต้องเป็นเป็นไปตามหลักเกณฑ์ดังกล่าว แล้วขอความเห็นชอบ ก.จ.จ.
[ สน.บถ. : สำนักพัฒนาระบบบริหารงานบุคคลส่วนท้องถิ่น ]


first previous ข้อมูลที่ 1 - 6 จาก 6 next last

  • 112,091,602
  • 40,618