สวัสดีครับพี่น้องชาว สถ. และ อปท. ทุกท่าน...
วันนี้ผมจะมาบอกเล่าเกี่ยวกับหลักเกณฑ์การกู้เงิน กบท.เป็นทุนหมุนเวียนกิจการสถานธนานุบาลกันครับ...
หลักเกณฑ์การกู้เงิน กบท. เป็นทุนหมุนเวียนกิจการสถานธนานุบาล
เพื่อเป็นการสนับสนุนการดำเนินกิจการสถานธนานุบาลของเทศบาลให้มีเงินทุนหมุนเวียนพอเพียงและสามารถให้บริการแก่ประชาชน
ในท้องถิ่นได้อย่างทั่วถึง คณะกรรมการกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการส่วนท้องถิ่น (ก.บ.ท.) ได้เปิดโอกาสให้เทศบาลกู้เงินกองทุน
บำเหน็จบำนาญ ฯ โดยมีหลักเกณฑ์ ดังนี้
หลักเกณฑ์การกู้
๑. คิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ ๔.๕ ต่อปี ชำระคืนเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยไม่เกิน ๕ ปี ชำระคืนเป็นรายปีภายใน ๓๐ กันยายนของทุกปี
๒. วงเงินกู้สูงสุด ๔๐ ล้านบาท สำหรับสถานธนานุบาลขนาดใหญ่ ๓๐ ล้านบาท สำหรับขนาดกลาง และ ๒๐ ล้านบาทสำหรับขนาดเล็ก
โดยในการขอรับเงินกู้จะรับในงวดเดียว หรือเป็นงวด ๆ ตามจำเป็นก็ได้ภายในระยะเวลา ๑ ปี นับแต่วันลงนามในสัญญา
๓. การก่อหนี้ผูกพันงบประมาณจะต้องได้รับความเห็นชอบจากสภาเทศบาลและผู้ว่าราชการจังหวัดต้องตั้งงบประมาณชำระหนี้เงินกู้ กบท.
ในงบประมาณรายจ่ายประจำปีของเทศบาลทุกปีจนกว่าจะครบถ้วน
๔. การจะกู้ใหม่ได้จะต้องไม่เคยผิดนัดชำระเงินต้นและดอกเบี้ยตามสัญญาในการกู้ครั้งก่อนและจะต้องปฏิบัติตามสัญญากู้เงินโดยเคร่งครัด
๕. ผ่านเกณฑ์การวิเคราะห์สถานะการคลังของสถานธนานุบาลอย่างน้อย ๒ ใน ๔ ข้อ ดังนี้
๕.๑ อัตราค่าใช้จ่ายการดำเนินงานเทียบกับรายได้ต้องไม่เกินกว่าร้อยละ ๗๕ ของรายได้
๕.๒ อัตรากำไรสุทธิเทียบกับหนี้สิ้นระยะยาวต้องไม่น้อยกว่าร้อยละ ๑๐ ของหนี้สินระยะยาว
๕.๓ อัตราทรัพย์รับจำนำ/หลุดจำนำเทียบกับหนี้สินระยะยาวต้องไม่น้อยกว่าร้อยละ ๑๐๐ ของหนี้สินระยะยาว
๕.๔ อัตรารายได้เทียบกับหนี้สินระยะยาวต้องไม่น้อยกว่าร้อยละ ๓๐ ของหนี้สินระยะยาว
กรณีสถานธนานุบาลที่เริ่มดำเนินกิจการยังไม่ครบ ๔ ปี ซึ่งอาจยังอยู่ในสภาวะขาดสภาพคล่องจนอาจกระทบและไม่สามารถดำเนินกิจการ
ได้อย่างต่อเนื่อง หรือการดำเนินกิจการต้องหยุดชะงักไม่สามารถให้บริการแก่ประชาชนได้ หรือกรณีเทศบาลมีเหตุผลความจำเป็นคณะกรรมการ ฯ
อาจพิจารณาอนุมัติให้กู้ได้เป็นกรณีพิเศษเฉพาะราย
นายขวัญชัย วงศ์นิติกร
อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น