สถ. เตรียมความพร้อมการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน ช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ. 2568 ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
วันนี้ (11 เมษายน 2568) เวลา 08.00 น. ณ ห้องประชุมกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการส่วนท้องถิ่น - นายนฤชา โฆษาศิวิไลซ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (สถ.) กระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุมชี้แจงการขับเคลื่อนการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน ช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ. 2568 ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) โดยมี นายศิริพันธ์ ศรีกงพลี รองอธิบดี สถ. นายกู้เกียรติ นิ่มเนียม หัวหน้าผู้ตรวจราชการกรม นายกริชชัย ศิลปรายะ นายมนัส สุวรรณรินทร์ ผู้ตรวจราชการกรม ผู้บริหารหน่วนงานในสังกัด สถ. เข้าร่วมประชุม
วันนี้ (11 เมษายน 2568) เวลา 08.00 น. ณ ห้องประชุมกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการส่วนท้องถิ่น - นายนฤชา โฆษาศิวิไลซ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (สถ.) กระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุมชี้แจงการขับเคลื่อนการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน ช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ. 2568 ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) โดยมี นายกู้เกียรติ นิ่มเนียม หัวหน้าผู้ตรวจราชการกรม นายกริชชัย ศิลปรายะ นายมนัส สุวรรณรินทร์ ผู้ตรวจราชการกรม ผู้บริหารหน่วนงานในสังกัด สถ. เข้าร่วมประชุม
ทั้งนี้ สถ. ได้กำหนดแนวทางการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ. 2568 ของ อปท. ดังนี้ 1. ด้านการบริหารจัดการ จัดตั้งด่านชุมชนของ อปท. ร่วมกับผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชน หน่วยงานราชการอาสาสมัครในพื้นที่หรือจัดตั้งจุดเคลื่อนที่เร็วประจำหมู่บ้าน รวมทั้ง ให้ อปท. เปิดสำนักงานเป็นจุดบริการ จุดพักรถเพื่อให้ประชาชนสามารถหยุดพักระหว่างเดินทาง เตรียมความพร้อมการประชุมวิเคราะห์ความเสี่ยง และจัดทำมาตรการเชิงรุกให้ความสำคัญเรื่องการดื่มไม่ขับในกลุ่มเสี่ยงที่เป็นเยาวชน คนวัยทำงาน 2. ด้านลดปัจจัยเสี่ยงด้านถนนและสภาพแวดล้อม โดยสำรวจ ตรวจสอบ ลักษณะทางกายภาพของถนน จุดเสี่ยง จุดอันตราย ดำเนินการปรับปรุงซ่อมแซมให้มีความปลอดภัย
3. มาตรการด้านผู้ใช้รถใช้ถนนอย่างปลอดภัย โดยรณรงค์มาตรการสวมหมวกนิรภัย 100% รวมทั้ง ขอความร่วมมือร้านค้าจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ตามเวลาที่กำหนด และตั้งจุดตรวจ จุดบริการประชาชนหรือด่านชุมชน 4. มาตรการด้านลดปัจจัยเสี่ยงด้านพาหนะ โดยประชาสัมพันธ์การตรวจสอบสภาพรถก่อนออกเดินทาง รวมทั้ง เข้มงวด กวดขันกับผู้ใช้รถกระบะที่บรรทุกน้ำหนักเกินและรถบรรทุกขนาดเล็ก
และ 5. ด้านการช่วยเหลือหลังเกิดอุบัติเหตุ โดยเตรียมความพร้อมหน่วยกู้ชีพ กู้ภัย ในด้านบุคลากร เครื่องมือ วัสดุอุปกรณ์ พร้อมช่วยเหลือผู้ประสบเหตุ
|
