สายตรง สถ. - กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น

  • CC071709

    กรณีผู้สูงอายุย้ายภูมิลำเนา

  • สอบถามหน่วยงาน > กองพัฒนาและส่งเสริมการบริหารงานท้องถิ่น

กรณีผู้สูงอายุย้ายภูมิลำเนา ตั้งแต่วันที่ 18 สิงหาคม 2559 และไม่ได้แจ้ง อบต.เดิม ว่าได้ย้าย ยังคงรับเบี้ยยังชีพที่ อบต.เดิมเรื่อยมา และในวันที่ 9 ตุลาคม 2562 ผู้สุงอายุได้รับหนังสือจาก อบต.เดิมว่า งดจ่ายเบี้ยยังชีพให้กับผู้สุงอายุเนื่องจากย้ายภูมิลำเนาและสิ้นสุดการรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุกับ อบต.เดิมในเดือน กันยายน 2562 หากผู้สูงอายุมีความประสงค์จะรับเงินกับ อปท.แห่งใหม่ ให้ไปลงทะเบียนภายใน พฤศจิกายน 2562 ผู้สูงอายุจึงไปลงทะเบียนที่ อบต.แห่งใหม่ในวันที่ 10 ตุลาคม 2562 และ อบต.แห่งใหม่แจ้งว่าจะเริ่มจ่ายเงินให้ตั้งแต่เดือน ตุลาคม 2563 ส่วนเบี้ยยังชีพที่ยังไม่ได้รับตั้งแต่เดือน ต.ค.62-ก.ย.63 ให้ติดต่อกับ อบต.เดิม ขอความชัดเจนในกรณีดังกล่าวว่า ในส่วนเบี้ยยังชีพที่ยังไม่ได้รับตั้งแต่เดือน ต.ค.62-ก.ย.63 อบต.เดิม หรือ อบต.แห่งใหม่จะต้องจ่ายให้กับผู้สูงอายุ

ถามโดย : มีนาเพ็ชรรัตน์ ( k.khung1922@gmail.com )  IP 125.27.xxx.xxx  [ วันที่ 04/12/2562 เวลา 11:38 ]

คำตอบจากเจ้าหน้าที่

กรณีผู้สูงอายุได้ย้ายออกจากภูมิลำเนาเดิม เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2559 จะต้องไปลงทะเบียนเพื่อขอรับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ต่อองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแห่งใหม่ภายในเดือนกันยายน 2559 ตามระเบียบฯ พ.ศ. 2552โดยจะได้รับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุต่อเนื่องจาก อปท. ใหม่ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2559 แต่เมื่อปรากฏ ข้อเท็จจริงว่าได้ไปลงทะเบียนเพื่อขอรับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุต่ออปท. ใหม่ เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2562 นั้น สิทธิการลงทะเบียนกรณีการย้ายภูมิลำเนาของผู้สูงอายุรายดังกล่าวได้สิ้นสุด ลงแล้ว การลงทะเบียนต่อ อปท. แห่งใหม่ จึงเป็นการลงทะเบียนผู้สูงอายุรายใหม่ ซึ่งจะได้รับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุจากสำนักงานเขตดุสิตในเดือนตุลาคม 2563 ซึ่งเป็นปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 ต่อไป (เป็นไปตามระเบียบข้อ 8 ฉบับที่ 2 พ.ศ. 2560)

ตอบโดย : กพส. ประสานโดย : กพส. ( 02-241-9000 ) [ วันที่ 09/12/2562 เวลา 09:24 ]