สายตรง สถ. - กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น

  • CC065786

    การรับเงินเบี้้ยยังชีพผู้สูงอายุกรณีย้ายที่อยู่

  • สอบถามหน่วยงาน > กองพัฒนาและส่งเสริมการบริหารงานท้องถิ่น

ผู้สูงอายุที่ย้ายที่อยู่ระหว่างปีงบประมาณ 2561 และได้ไปขึ้นทะเบียนที่ใหม่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งตามระเบียบเดิม จะมีสิทธิได้รับเบี้ยยังชีพจากที่ใหม่ คือ ปีงบประมาณถัดไป ซึ่งก็เป็นการถูกต้องเนื่องจากบุคคลดังกล่าวได้มีการตั้งงบประมาณรองรับไว้แล้วไม่ว่าจะมาลงทะเบียนเดือนไหน แต่ ณ ปัจจุบัน มีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นบางแห่งได้รับขึ้นทะเบียนผู้สูงอายุไว้ และมีหนังสือแจ้งให้ที่เดิมจำหน่ายผู้สูงอายุออกจากระบบ พร้อมให้ยุติการจ่ายเงินตั้งแต่เดือนตุลาคม 2561 เป็นต้นไป ซึ่งการจำหน่ายผู้สูงอายุออกจากระบบถือเป็นหลักปฏิบัติที่ถูกต้องอยู่แล้ว แต่การจ่ายเบี้้ยยังชีพถือว่าเป็นการถูกต้องหรือไม่ เพราะการตั้งงบประมาณให้กับผู้สูงอายุรายดังกล่าว ที่เดิมได้มีการตั้งงบประมาณรองรับไว้แล้ว

ถามโดย : ดวงฤทัยชัยรัตน์ ( dou-909@hotmail.com )  IP 113.53.xxx.xxx  [ วันที่ 19/07/2561 เวลา 15:30 ]

คำตอบจากเจ้าหน้าที่

กรณีการย้านที่อยู่ระหว่างปีงบประมาณ เป็นไปตามระเบียบ มท. ว่าด้วยหลักเกณฑ์การจ่ายเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุของ อปท. พ.ศ. 2552 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2560 ซึ่งข้อ 8 ระบุไว้ว่า ผู้สูงอายุผู้ใดที่มีสิทธิได้รับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ตนมีภูมิลำเนาอยู่ ต่อมาผู้สูงอายุนั้นได้ย้ายภูมิลำเนาไปอยู่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอื่น ให้ผู้สูงอายุนั้นไปลงทะเบียนและยื่นคำขอรับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุด้วยตนเองต่อองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแห่งใหม่นับตั้งแต่วันที่ย้ายแต่ไม่เกินเดือนพฤศจิกายนของปีนั้น ๆ ทั้งนี้ ให้ได้รับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแห่งใหม่ในปีงบประมาณถัดไป โดยให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแห่งใหม่แจ้งให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเดิมที่จ่ายเงินเบี้ยยังชีพให้แก่ผู้สูงอายุผู้นั้นทราบเพื่อไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อน ทั้งนี้ ในระหว่างปีงบประมาณให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเดิมที่จ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุอยู่ ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนั้นยังคงจ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุต่อไปจนกว่าจะสิ้นปีงบประมาณ สอบถามเพิ่มเติม 02-2419000 ต่อ 4131

ตอบโดย : กพส. ประสานโดย : กพส. ( 02-241-9000 ) [ วันที่ 20/07/2561 เวลา 09:49 ]