สายตรง สถ. - กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น

  • CC057175

    การมีสิทธิได้รับค่าเช่าบ้าน

  • สอบถามหน่วยงาน > สำนักบริหารการคลังท้องถิ่น

ขอสอบถามกรณีที่ข้าราชการผู้หนึ่ง เคยได้รับโอนกรรมสิทธิ์บ้านและที่ดิน(บิดายกให้) เมื่อปี 2550 แล้วในท้องที่อำเภอ ก ต่อมาบ้านชำรุดทรุดโทรมมาก จึงรื้อถอนและปลูกสร้างบ้านใหม่ โดยไปกู้เงินกับธนาคารมาปลูกสร้างใหม่แล้วและได้พักอาศัยในบ้านหลังดังกล่าว จนถึงปัจจุบัน ต่อมาได้ย้ายมารับราชการในท้องที่อำเภอ ก (ณ ที่มีบ้านพักอาศัยอยู่) จะถามว่าข้าราชการผู้นี้ จะมีสิทธิ์นำค่าผ่อนชำระเงินกู้ราคาบ้าน มาเบิกค่าเช่าบ้านกับทางราชการหรือไม่ เนื่องจาก 1.ณ วันที่ย้ายมารับราชการ อำเภอ ก ถือว่ามีหนี้ ค่าผ่อนชำระเงินกู้ราคาบ้าน ค้างชำระอยู่กับสถาบันการเงินแล้ว จึงน่าจะมีสิทธิได้รับค่าเช่าบ้าน หรือ 2. ณ วันที่ได้รับโอนบ้านและที่ดิน ปี 2550 (รับราชการท้องที่อื่น) จะถือว่ามีกรรมสิทธิ์ในบ้าน ในท้องที่อำเภอ ก แล้ว น่าจะต้องห้ามมิให้มีสิทธิได้รับค่าเช่าบ้าน ตามระเบียบ ข้อ 6 (2)

ถามโดย : นายกิตติภากร จิตตะ ( Kittipakorn.jitta@hotmail.co.th )  IP 183.88.xxx.xxx  [ วันที่ 31/01/2559 เวลา 14:53 ]

คำตอบจากเจ้าหน้าที่

1. ถ้า ณ เวลาที่ข้าราชการดังกล่าวย้ายมาปฏิบัติงานในท้องที่อำเภอ ก ทาง อปท. ไม่จัดที่พักให้ และข้าราชกาัรดังกล่าวไม่มีบ้านหลังอื่นที่เป็นกรรมสิทธิ์ตั้งอยู่ในท้องที่อำเภอ ก หากบ้านหลังดังกล่าวยังมีหนี้ค้างชำระกับสถาบันการเงิน ข้าราชการก็สามารถนำหลักฐานการผ่อนชำระเงินกู้บ้านหลังดังกล่าวมาเบิกค่าเช่าบ้านได้ 2. สำหรับกรณีที่ข้าราชการได้รับโอนบ้านและที่ดิน ปี 2550 ไม่ต้องห้ามมิให้มีสิทธิได้รับค่าเ่ช่าบ้าน เนื่องจาก ณ เวลาที่ข้าราชการดังกล่าวย้ายมารับราชการในท้องที่อำเภอ ก บ้านหลังที่เคยเป็นกรรมสิทธิ์ไดู้ถุกรื้อถอนไปก่อนแล้ว ดังนั้น ณ เวลาที่ข้าราชการย้ายมารับราชการในท้องที่อำเภอ ก จึงไม่ถือว่ามีบ้านเป็นกรรสิทธิ์ของตนเองในท้องที่ที่ปฏิบัติราชการ

ตอบโดย : สน.คท. ประสานโดย : สน.คท. ( 02-241-9000 ต่อ 1503-4 ) [ วันที่ 01/02/2559 เวลา 16:06 ]