ข่าวผู้บริหาร

วันที่ 20 มีนาคม 2566 ณ ห้องสุพรรณหงส์ 1 โรงแรมอเล็กซานเดอร์ กรุงเทพมหานคร - นายขจร ศรีชวโนทัย อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (สถ.) กระทรวงมหาดไทย มอบหมายให้ นายเอกวิทย์ มีเพียร รองอธิบดี สถ. เป็นประธานเปิดโครงการประชุมเชิงปฏิบัติการผู้ปฏิบัติงานด้านบำเหน็จบำนาญข้าราชการส่วนท้องถิ่นขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 รุ่นที่ 6 โดยมีผู้เข้ารับการอบรมทั้งสิ้น 212 คน
 

โครงการดังกล่าว มีวัตถุประสงค์เพื่อซักซ้อมแนวทางการปฏิบัติเกี่ยวกับงานด้านบำเหน็จบำนาญ การฝึกปฏิบัติในการคำนวณบำเหน็จบำนาญข้าราชการส่วนท้องถิ่น และบำเหน็จลูกจ้างขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และเตรียมความพร้อมให้กับผู้เข้าร่วมประชุม ซึ่งรับผิดชอบงานบำเหน็จบำนาญขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ยังไม่เคยเข้ารับการฝึกอบรม และจะมีผู้ที่เกษียณอายุราชการในปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 โดยผู้เข้าร่วมประชุมในรุ่นที่ 6 นี้ ประกอบไปด้วยเทศบาลเมือง เทศบาลตำบล และองค์การบริหารส่วนตำบล โดยจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือเป็นส่วนใหญ่
 

รองอธิบดี สถ. กล่าวว่า "มีความยินดีและเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้มาเป็นประธานเปิดโครงการในวันนี้ ซึ่งเป็นโอกาสอันดีที่ผู้เข้าร่วมโครงการจะได้ทราบแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับระเบียบกฎหมายบำเหน็จบำนาญทั้งในส่วนของข้าราชการส่วนท้องถิ่น และลูกจ้างประจำขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อีกทั้งยังได้ทบทวนความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการคำนวณบำเหน็จบำนาญ การนับเวลาราชการ การคำนวณเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับบำนาญ (ช.ค.บ.) การจัดทำทะเบียนบำเหน็จบำนาญข้าราชการส่วนท้องถิ่น การตั้งงบประมาณและการเบิกจ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการส่วนท้องถิ่น การจัดสรรเงินอุดหนุนเป็นค่าบำเหน็จบำนาญของข้าราชการส่วนท้องถิ่นตำแหน่งอื่น ตำแหน่งครู ครูถ่ายโอน ครูผู้ดูแลเด็ก และการขออนุมัติโอนเงินกองทุนบำเหน็จบำนาญให้เกิดความเชี่ยวชาญและเป็นมืออาชีพ"
 

"ขอฝากให้ทุกท่านศึกษาและทำความเข้าใจระเบียบกฎหมายที่เกี่ยวข้องให้ดี และนำมาใช้ให้ถูกต้อง เพราะถือว่าเป็นเรื่องของสิทธิประโยชน์ของผู้ที่จะได้รับบำเหน็จบำนาญ หวังเป็นอย่างยิ่งว่า การประชุมเชิงปฏิบัติการในครั้งนี้จะช่วยให้ทุกท่านปฏิบัติหน้าที่เกี่ยวกับงานด้านบำเหน็จบำนาญข้าราชการส่วนท้องถิ่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ สมบูรณ์ครบถ้วน และใช้โอกาสนี้สร้างเครือข่ายการทำงานร่วมกันทั้งในระดับพื้นที่ และส่วนกลาง เพิ่มช่องทางในการติดต่อสื่อสาร เพื่อให้การทำงานมีประสิทธิภาพ สามารถแก้ไขปัญหาหรือข้อติดขัดต่างๆ ให้แก่ผู้ที่จะได้รับบำเหน็จบำนาญได้อย่างดี" รองอธิบดี สถ. กล่าว
 

-